ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 217
ฝูงโคที่เขาฝึกแล้วและโคมีกำลัง แม้มีอยู่ในส่วนอื่น พอเมื่อนายโคบาล
เปิดประตูคอกที่แออัดด้วยฝูงโค โคตัวที่อยู่ใกล้ประตูคอก โดยที่สุด
แม้เป็นโคที่แก่ทุรพลภาพ โคตัวนั่นแล ย่อมออกก่อนกว่า ฉันใด เมื่อ
กรรมที่เป็นกุศลและอกุศลเหล่าอื่นจากครุกกรรม แม้มีอยู่ อาสันนกรรม
นั้นแล ย่อมให้ผลก่อน เพราะอยู่ใกล้มรณกาล เพราะฉะนั้น ใน
ปกรณ์นี้ ท่านอาจารย์จึงกล่าวอาสันนกรรมนั้นไว้ก่อน ๆ
[อธิบายกรรม ๔ อย่าง ให้ผลตามคราว
กรรมที่ชื่อว่าทิฏฐธัมมเวทนียะ (คือกรรมให้ผลในภพนี้) เพราะ
อรรถว่า สัตว์จะพึงทราบได้ด้วยอำนาจการเสวยผลในทิฏฐิธรรม คือ
อัตภาพที่เห็นประจักษ์ ได้แก่ที่เป็นปัจจุบัน ฯ กรรมที่สัตว์จะต้องเกิด
ต่อจากภพปัจจุบันแล้วจึงเสวยผล ชื่อว่าอุปปัชชเวทนียะ (คือกรรมให้
ผลต่อเมื่อเกิดแล้วในภพหน้า) ฯ กรรมที่สัตว์จึงเสวยผลในภพต่อ ๆ ไป
คือในอัตภาพอื่น อัตภาพใดอัตภาพหนึ่ง จากภพปัจจุบันนี้ ชื่อว่า
อปราปริยเวทนียะ (คือกรรมให้ผลในภพต่อ ๆ ไป)ฯ กรรมที่ควร
กล่าวอย่างนี้ว่า "กรรมได้มีแล้วแล ผลของกรรมนั้นไม่ได้มีแล้ว กำลัง
มี หรือจักมี" ชื่อว่าอโหสิกรรมฯ
ન
บรรดากรรม ๔ เหล่านั้น เจตนาดวงแรก ถึงความเป็นเจตนา
ที่มีกำลัง เพราะไม่ถูกกุศลากุศลที่เป็นข้าศึกครอบงำ และเพราะเป็น
เจตนาที่ได้รับความวิเศษ โดยความวิเศษแห่งปัจจัย เป็นเจตนาที่มี
ความดียิ่ง ซึ่งดำเนินไปด้วยอำนาจความปรุงแต่งเบื้องต้นเช่นนั้น อำนวย
ผลให้ในอัตภาพนั้นเท่านั้น ชื่อว่าทิฏฐธัมมเวทนียะ ฯ ความจริง