อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้า 422 อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 422
หน้าที่ 422 / 442

สรุปเนื้อหา

บทนี้กล่าวถึงการบริกรรม ๓ หรือ ๔ หน สามารถเข้าถึงจิตของผู้อื่นได้ด้วยเจโตปริยญาณ คล้ายกับการมองด้วยทิพยจักษุ นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการกำหนดอารมณ์ของจิตที่มีราคะและความแตกต่างระหว่างอภิญญา โดยเน้นความหมายของอิทธิวิธา ทิพพโสต และปรจิตตวิชานนา ที่กล่าวถึงความสามารถในการรับรู้จิตคนอื่นและวาระในอดีต บทเรียนนี้สำคัญในการเข้าใจอภิญญาและการบริกรรมในเชิงลึก

หัวข้อประเด็น

-การบริกรรม
-เจโตปริยาณ
-อภิญญา
-ความแตกต่างของอารมณ์
-การกำหนดจิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 422 บริกรรม ๓ หรือ ๔ หน จะแทงตลอดจิตของคนอื่นได้ด้วยเจโต ปริยญาณ ดุจแทงตลอดรูปด้วยทิพยจักษุฉะนั้น ภายหลังจะกำหนดจิต มีจิตที่มีราคะเป็นต้นได้ด้วยกามาวจรจิต ดุจกำหนดสีเขียวเป็นต้นฉะนั้น ก็กิจมีการบริกรรมเป็นต้นเหล่านั้นทั้งหมดเป็นอารมณ์ของจิตเฉพาะหน้า เท่านั้น อนึ่ง โทษคือความที่ปรจิตตวิชชานั้น มีอารมณ์ต่าง ๆ กัน ในฐานะที่ไม่น่าปรารถนา จะไม่มี เพราะเป็นไปโดยอาการที่ไม่ต่าง กันฯ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ มีขันธ์ที่ตนอยู่อาศัยในกาลก่อน นาม โคตรที่เนื่องด้วยขันธ์ และนิพพานเป็นอารมณ์ ส่วนทิพยจักษุมีรูปที่ เป็นปัจจุบันอย่างเดียวเป็นอารมณ์ ฯ อภิญญาเหล่านั้น มีวิภาคแห่ง อารมณ์ดังพรรณนามาฉะนี้ ฯ บทว่า ยถารหมปุเปติ คือ รูปาวจร ปัญจมฌาน ย่อมแนบแน่น โดยอนุรูปแก่บริกรรมนั้น ๆ ฯ [อธิบายความต่างกันแห่งอภิญญา ๕] บัดนี้ เพื่อจะแสดงความต่างกันแห่งอภิญญาทั้งหลาย โดยความ ต่างแห่งอารมณ์เท่านั้น ท่านอาจารย์จึงกล่าวคำว่า อิทธิวิธา ดังนี้เป็น ต้น ๆ อภิญญาที่ชื่อว่าอิทธิวิธา (แสดงฤทธิ์ต่าง ๆ ได้) เพราะอรรถ ว่า มีประเภทแห่งฤทธิ์มีอธิษฐานฤทธิ์เป็นต้นฯ ที่ชื่อว่าทิพพโสต เพราะอรรถว่า โสตนั้นด้วย เป็นทิพย์ด้วย เพราะเป็นเหมือนโสตของ พวกเทวดา และเพราะเป็นธรรมชาตอาศัยทิพพวิหารธรรม (คือรูปา วจรปัญจมฌาน) ฯ อภิญญาที่ชื่อว่าปรจิตตวิชานนา เพราะอรรถว่า เป็นเครื่องรู้จิตของคนอื่น ๆ การตามระลึกได้ซึ่งขันธ์เป็นต้น (ที่เป็นไป แล้ว) ในกาลก่อน คือในภพอดีต ด้วยสามารถที่เคยอยู่มา และด้วย ન
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More