ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 279
วาจานั้น ๆ ในวิญญัติทั้ง ๒ นั้น วิการแห่งวาโยธาตุซึ่งมีจิตยังความ
คิดที่จะก้าวไปข้างหน้าเป็นต้นให้เกิดเป็นสมุฏฐาน ที่เป็นเหตุทำร่วมกัน
ในการค้ำจุนทรงอยู่และการเคลื่อนไหวแห่งรูปที่เกิดร่วมกัน ที่พ้นจาก
กายที่ไหวอยู่และวาโยธาตุที่เป็นเหตุไหว อันบุคคลได้อยู่โดยความเป็น
ปัจจัยแห่งความเคลื่อนไหวแห่งรูปกาย ดุจวิการแห่งความอุตสาหะในเวลา
ที่คนยกหินแผ่นใหญ่ถือไว้ด้วยกำลังทั้งหมด ชื่อว่ากายวิญญัติฯ จริงอยู่
กายวิญญัตินั้น ยังคนอื่นให้รู้ความประสงค์ด้วยกายที่เคลื่อนไหวอยู่ๆ
แท้จริง ในความเคลื่อนไหวแห่งต้นไม้เป็นต้น ที่พ้นจากวิการคือวิญญัติ
บัณฑิตไม่เห็นการถือเอาความประสงค์ว่า "คนนี้ใช้ให้ทำการนี้ " ดังนี้
และ ฯ และตนเองก็รู้ด้วยกาย เพราะพวกมโนทวารชวนะ อันมีลำดับ
ไม่ปรากฏยึดอยู่ในลำดับแห่งการถือความประสงค์แห่งกายที่เคลื่อนไหวอยู่
ในการเคลื่อนไหวแห่งเหมือนเป็นต้น ฯ
ක
มีคำถามสอดเข้ามาว่า ความเคลื่อนไหวแห่งมือเป็นต้น มีได้
ด้วยอำนาจวิญญัติ ด้วยประการไรเล่า ? เฉลยว่า "บรรดาชวนะ
ทั้ง ๓ ในวิถีแห่งอาวิชชนะเดียวกัน วาโยธาตุอันมีชวนะที่ ๒ เป็นสมุฏ
ฐาน ประกอบด้วยวิการคือวิญญัติ ได้รับความอุปถัมภ์แล้วจากพวก
วาโยธาตุ อันมีปฐมชวนเป็นต้นเป็นสมุฏฐาน ย่อมยังจิตตชรูปให้
เคลื่อนไหว เพราะเป็นเหตุแห่งความเกิดในประเทศส่วนอื่น "ๆ ส่วน
วาโยธาตุที่เกิดแต่ชวนะเดิมเป็นต้น ทำหน้าที่เพียงค้ำจุนและทรงไว้
ย่อมมีเพื่ออุดหนุนแก่วาโยธาตุที่เกิดแต่ชวนะที่ ๓ นั้น ๆ ข้อนี้จึงเห็น
สมความอุปมา เหมือนในเกวียนที่โคจะต้องลากไปด้วยแอก ๓ แอก