ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 67
งานที่พิจารณาฯ จริงอยู่ ฌานที่สูงๆ ขึ้นไป ย่อม
เป็นบาทไม่เล็งฌานที่พิ
มีกำลังกว่าฌานที่ต่ำ ๆ ลงมาฯ
ส่วนการนิยมเวทนาแม้ในมรรคทั้งปวง ย่อมมีโดยนิยมคือ
วิปัสสนาที่เป็นวุฏฐานคามินีฯ การนิยมองค์ฌานล้วน ๆ ของพระผู้
สุกขวิปัสสก ย่อมมีโดยการนิยมคือวิปัสสนาเป็นวุฏฐานคามินีอย่างนั้น
เหมือนกันฯ จริงอยู่ มรรคของพระผู้สุกขวิปัสสกนั้น ประกอบด้วย
องค์ ๕ เท่านั้น โดยความนิยมคิดวิปัสสนา เพราะไม่มีความนิยมด้วย
อำนาจฌานที่เป็นบาทเป็นต้นนั้น เพราะฌานที่เป็นบาทเป็นต้นไม่มีแก่
พระผู้สุกขวิปัสสกนั้น ๆ อีกอย่างหนึ่ง ถึงมรรคของบุคคลแม้ผู้ได้
สมบัติไม่กระทำฌานให้เป็นบาท พิจารณาปกิณณกสังขาร (สังขาร
เบ็ดเตล็ด) แล้วให้เกิดขึ้น ก็ประกอบด้วยองค์ ๕ โดยความนิยมคือ
วิปัสสนาเท่านั้น วินิจฉัยที่เป็นสาระอย่างว่ามานี้ ในอธิการว่าด้วย
การนิยมองค์ฌานนี้ พระอรรถกถาจารย์ยกขึ้นจากอรรถกถาเป็นต้น ฯ
แต่วินิจฉันที่พิสดาร ซึ่งเป็นไปด้วยอำนาจการแสดงเถรวาทเป็นต้น
บัณฑิตพึงทราบโดยนัยที่ท่านกล่าวไว้ในอรรถกถาเป็นต้นฯ ก็ในการ
นิยมองค์ฌานนี้ พึงทราบนัยพิสดาร ฉันใด นัยพิสดารในการนิยม
โพชฌงค์ และการนิยมองค์มรรคเป็นต้นแม้ทั้งหมด บัณฑิตจึงถือเอา
โดยนับที่ท่านกล่าวไว้แล้วในปกรณ์ มีอรรถกถาเป็นต้นนั้น ๆ ฉันนั้น ๆ
แต่เพื่ออนุเคราะห์เหล่าชนผู้กลังคัมภีร์ ข้าพเจ้าจึงประสงค์เอาแต่สังเขปกถา
ในปกรณ์ฯ เหมือนอย่างว่า รูปาวจรจิต บัณฑิตถือเอาในความต่าง
แห่งฌาน ๕ อย่าง มีปฐมฌานเป็นต้น เรียกโดยชื่อว่าปฐมฌานเป็นต้น