ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกา - หน้าที่ 94
สุตตันตะและวนันตะเป็นต้นฉะนั้น ๆ การงานที่เป็นโดยชอบ ชื่อว่า
สัมมากัมมันตะ ได้แก่เจตนาเครื่องงดเว้นจากกายทุจริตฯ การงดเว้นกาย
ทุจริตนั้น มี ๓ อย่างคือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง
ไป ๑ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เขามิได้ให้ ๑ เจตนา
เครื่องงดเว้นจากความประพฤติผิดในกาม ๑ ฯ ธรรมที่ชื่อว่าสัมมาอาชีวะ
เพราะอรรถว่า เป็นเครื่องดำรงชีพโดยชอบแห่งสัตว์ทั้งหลาย ได้แก่
เจตนาเครื่องงดเว้นจากมิจฉาชีพฯ ก็สัมมาอาชีวะนั้นมี ๒ อย่าง ด้วย
อำนาจงดเว้นจากกายทุจริตวจีทุจริตซึ่งมีอาชีพเป็นเหตุ หรือมีมากอย่าง
ด้วยอำนาจงดเว้นจากมิจฉาชีพมีกุหนา และ ลปนา เป็นต้นฯ แต่ว่า
วิรัติทั้ง ๓ นี้ เฉพาะอย่างหนึ่ง ๆ มี ๓ อย่าง ด้วยอำนาจสัมปัตตวิรัติ
สมาทานวิรัติ และสมุจเฉทวิรัติ (ด้วยอำนาจงดเว้นจากวัตถุที่ถึงเข้า
เฉพาะหน้า งดเว้นด้วยการสมาทาน และงดเว้นด้วยการตัดขาด) ฯ
เจตสิกทั้ง ๓ ชื่อว่าวิรัติ เพราะเว้นจากทุจริตตามที่กล่าวแล้ว ฯ
[อธิบายอัปปมัญญาเจตสิก]
ය
ธรรมชาติชื่อว่ากรุณา เพราะอรรถว่า กระทำในเมื่อคนอื่น
มีความทุกข์ คือให้เกิดความลำบากใจของคนดีทั้งหลาย หรือเพราะ
กระจาย คือช่วยสลัดทุกข์ของอื่น หรือเพราะอรรถว่า บีบคั้น คือ
เบียดเบียนทุกข์ของคนอื่นนั้น หรือเพราะอรรถว่า เมื่อสัตว์ทั้งหลาย
ประสบทุกข์ เป็นเหตุคลี่คลายออก คือเหยียดออกไป ฯ กรุณานั้นมี
ความต้องการบำบัดทุกข์ของคนอื่นเป็นลักษณะ ฯ จริงอยู่ ทุกข์ของคน
อื่นจะถูกกรุณานั้นนำออกไปได้ หรือนำออกไปไม่ได้ก็ตามที แต่กรุณา