อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 154
หน้าที่ 154 / 442

สรุปเนื้อหา

ในบทนี้กล่าวถึงการวิเคราะห์ของจิตและคุณสมบัติของธรรมที่เกี่ยวข้องกันตามอภิธัมมัตถสังคหบาลี โดยการสำรวจอำนาจของอุปปาทขณะ ฐิติขณะ และภังคขณะ การทำความเข้าใจในอารมณ์และความสามารถในการรู้แจ้งของจิตตลอดจนลักษณะของรูปธรรมและนามธรรม ทำให้ผู้ศึกษาสามารถเข้าใจความลึกซึ้งของจิตและวิญญัติที่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยไม่พึ่งพิงการอ้างอิงผิดพลาดจากอาจารย์บางกลุ่ม

หัวข้อประเด็น

-อภิธัมมะ
-จิตและความสามารถในการรู้แจ้ง
-อำนาจของอุปปาทขณะ
-รูปธรรมและนามธรรม
-ความสัมพันธ์ของขณะจิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 154 แล้วปรากฏ ๑ ดังนี้ บัณฑิตไม่สามารถจะรู้ได้ว่า ความตั้งอยู่แห่ง ธรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน อันมีสภาพะเป็นบัญญัติ ซึ่งเป็นอสังขตะ พระผู้มี พระภาคตรัสไว้แล้วในพระสูตรนั้น ๆ แต่เพราะอุปสัคเป็นไปในอรรถ แห่งธาตุนั่นเอง บทว่า ปญฺญายติ นี้ จึงมีอรรถว่า วิญญายติ แปลว่า รู้แจ้งฯ เพราะฉะนั้น ขณะที่ตั้งอยู่แห่งจิต ท่านอาจารย์ไม่ควรคัดค้าน ด้วยคำของอาจารย์บางพวกเพียงเท่านั้น เพราะฉะนั้น คำว่า ด้วยอำนาจ อุปปาทขณะ ฐิติขณะ และภังคขณะนี้ ท่านอนุรุทธาจารย์ได้กล่าวไว้ถูก ต้องดีแล้ว ฯ ก็เพราะว่าท่านอธิบายไว้อย่างนี้ แม้ในอรรถกถา (วิภังค์) ท่านจึงกล่าวว่า จิตดวงหนึ่ง ๆ มีดวงละ ๓ ขณะ ด้วยอำนาจอุปปาทขณะ ฐิติขณะ และภังคขณะ ดังนี้ ฯ ๆ [อายุของรูปธรรมและนามธรรม อรูปมีความเปลี่ยนแปลงเร็ว รูปมีความเปลี่ยนแปลงช้า เพราะ ภาวะแห่งอรูปผู้ยึดถือและรูปอันอรูปจึงยึดถือ สำเร็จด้วยสามารถแห่ง ขณะแห่ง ๆ เพราะฉะนั้น ท่านอาจารย์จึงกล่าวคำเป็นอาทิว่า ตานิ ดังนี้ 1 บทว่า ตานิ คือเป็นเช่านั้น ฯ ขณะทั้งหลายเหมือนขณะแห่งจิต ๑๗ ดวง ชื่อว่าสัตตรสจิตตขณะ ฯ อีกนัยหนึ่ง สัมพันธ์ความว่า ขณะจิตเหล่า นั้นมี ๑๒ ขณะ ฯ แต่แยกเป็นส่วน ๆ ขณะจิตมี ๕๑ ขณะ ฯ บทว่า รูปธมฺมานํ ได้แก่ รูปธรรมเว้นวิญญัติและลักษณรูปทั้ง ๓ เสีย ฯ แท้จริง วิญญัติทั้ง ๒ มีอายุชั่วขณะจิตด้วยหนึ่ง ๆ ๆ จริงอย่างนั้น วิญญัติทั้ง ๒ นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในจำพวกธรรมที่เป็นไปตามจิต ฯ ก็บรรดา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More