ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 434
ที่พิจารณานิพพานนั้น ก็พิจารณากิเลสที่ละได้แล้วว่า กิเลสเหล่านี้
เราละได้แล้ว ฯ พิจารณากิเลสที่ยังเหลือว่า กิเลสเหล่านี้ยังเหลืออยู่
แก่เราฯ บทว่า ปจจเวกฺขติ วา น วา คือ พระเสขะบางท่าน
ก็พิจารณา บางท่านก็ไม่พิจารณาฯ อธิบายว่า ในการพิจารณากิเลส
ที่ละได้แล้วและที่ยังเหลือนั้น เป็นเรื่องตามแต่ท่านประสงค์ ฯ
จริงอย่างนั้น เจ้าศากยะมหานาม ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถึงกิเลสที่ยังละไม่ได้ว่า ธรรมอะไรหนอในภายใน ที่ข้าพระองค์
ยังละไม่ได้ พระเจ้าข้า ฯ แต่สำหรับพระอรหันต์ไม่มีการพิจารณากิเลส
ที่ยังเหลือ เพราะกิเลสทั้งหลายท่านละได้หมดแล้ว ฯ เพราะฉะนั้น
บัณฑิตพึงทราบว่า ปัจจเวกขณญาณมี ๑๕ คือ พระเสขะ ๒ จำพวก
มีปัจจเวกขณญาณ ๑๕ พระอรหันต์มีปัจจเวกขณญาณ ๔ ฯ บทว่า
ฉพฺพิสุทธิกุกเมน ได้แก่ ตามลำดับแห่งวิสุทธิ 5 เหล่านี้ คือ วิสุทธิ์ ๒
ที่เป็นมูลฐาน ด้วยอำนาจแห่งสีลวิสุทธิและจิตตวิสุทธิ และวิสุทธิ์ ๔
ที่เป็นโครงร่าง ด้วยอำนาจแห่งทิฏฐิวิสุทธิเป็นต้น ฯ มรรคชื่อว่า
ญาณทัสสนวิสุทธิ, เพราะรู้ เพราะกระทำการพิจารณาสัจจะ ๔ และ
เพราะบริสุทธิ์จากมลทินคือกิเลส ฯ บทว่า เอตฺถ คือ ในวิปัสสนา
กรรมฐาน ฯ
จบนิเทศวิสุทธิ ๗ ฯ
๑. ฉบับพม่าและสีหล เป็นกามจาโร ฯ