ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 240
ปฏิสนธิขณะแห่งกุศลกรรมว่า "เมื่อความถึงพร้อมด้วยคติมีอยู่ เมื่อ
กุศลกรรมจึงให้ปฏิสนธิเป็นญาณสัมปยุต วิบากเป็นญาณสัมปยุตย่อม
เกิดขึ้น เพราะปัจจัยแห่งเหตุ ๔ ประการ" อนึ่ง ท่านกล่าวถึงวิบาก
ญาณวิปยุตบังเกิด เพราะปัจจัยแห่งเหตุ ๖ ประการ ด้วยอำนาจแห่ง
เหตุ ๒ (คือ อโลภะ อโทสะ) ในชวนขณะ และเหตุ ๒ ในนิกันติ
ขณะ และเหตุ ๒ ในปฏิสนธิขณะว่า "เมื่อความถึงพร้อมด้วยคติมีอยู่
เมื่อกุศลกรรมพึงให้ปฏิสนธิเป็นญาณวิปยุต วิบากเป็นญาณวิปยุต
ย่อมเกิดขึ้น เพราะปัจจัยแห่งเหตุ ๖ ประการ" ฉันใด ติเหตุกกรรม
จะชุกทุเหตุกปฏิสนธิมา มีไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้กล่าวถึงทุเหตุก
ปฏิสนธิโดยติเหตุกกรรมว่า "เมื่อความถึงพร้อมด้วยคติมีอยู่ เมื่อ
อกุศลกรรมจึงให้ปฏิสนธิเป็นญาณวิปยุต วิบากเป็นญาณวิปยุตย่อมเกิด
เพราะปัจจัยแห่งเหตุ ๓ ประการ ฉันนั้น " ? จึงแก้ว่า "ติเหตุกกรรม
นี้ไม่เป็นดังที่ท่านกล่าวนี้ เพราะติเหตุกกรรมอย่างต่ำ จึงให้ทุเหตุก
ปฏิสนธิอย่างเดียว โดยอนุรูปแก่ความสามารถ ดุจทุเหตุกกรรม
อย่างต่ำ จึงให้อเหตุกปฏิสนธิฉะนั้น "ฯ แต่เพื่อจะแสดงผลที่เห็นสม
(เสมอ) ด้วยกรรม ท่านพระมหาเถระ (สารีบุตร) จึงได้รจนาปาฐะ
ที่เหลือไว้ฯ บัณฑิตพึงเห็นสันนิษฐานว่า "เมื่อถือเอาความโดย
ประการนอกนี้ แม้อเหตุกปฏิสนธิบังเกิด ด้วยทุเหตุกกรรมต้องไม่มี
เพราะไม่มีคำว่า "เพราะปัจจัยแห่งเหตุ ๔ ประการ " เพราะฉะนั้น
พระมหาเถระ จึงยกความเกิดแก่งติเหตุกปฏิสนธิขึ้นไว้ ด้วยติเหตุก
๑. ขุ. ปฏิ, ๓๑/๔๐๒-๔๑๒ ฯ ๒. ขุ. ปฏิ, ๓๑/๔๐๒-๔๑๒ 1