ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 325
เหล่านี้ โทมนัส เป็นอกุศลฌานังคะ ที่เหลือมีวิตกเป็นต้น เป็นฌานังคะ
ที่เป็นกุศลอกุศลและอัพยากฤต ฯ
ભૈ
ชื่อว่ามรรค เพราะทำให้บุคคลมุ่งหน้าตรงไปถึงสุคติ ทุคติ และ
นิพพาน องค์ที่เป็นทางแห่งมรรคเหล่านั้น หรือองค์แห่งอัฏฐังคิกมรรค
ชื่อว่ามัคคังคะ ฯ ธรรมชาติที่ชื่อว่าสัมมาทิฏฐิ เพราะอรรถว่า เห็นถูก
คือไม่ผิด (เห็นโดยชอบ คือโดยไม่วิปริต) ฯ ก็สัมมาทิฏฐินั้นมี
อย่าง ด้วยอำนาจแห่งนัยเป็นต้นว่า ผลทานที่ให้แล้วมี หรือมี 4 อย่าง
ด้วยอำนาจแห่งกิจมีการกำหนดรู้เป็นต้นฯ สภาพที่ชื่อว่าสัมมาสังกัปปะ
เพราะอรรถว่า เป็นเครื่องดำริชอบฯ ความดำริชอบนั้นมี ๓ อย่าง
๑๐
ด้วยอำนาจดำริในการออกจากกาม ดำริในการไม่พยาบาท และดำริใน
การไม่เบียดเบียนฯ การเจรจาชอบเป็นต้น ข้าพเจ้าได้ชี้แจงไว้แล้ว
ในหนหลังนั้นแลฯ สภาพที่ชื่อว่าสัมมาวายามะ เพราะอรรถว่า เป็น
เครื่องพยายามชอบฯ ที่ชื่อเป็นสัมมาสติ เพราะอรรถว่า เป็นเครื่อง
ระลึกชอบ ฯ ก็ท่านอาจารย์จักกล่าวประเภทแห่งสัมมาสังกัปปะเป็นต้น
เหล่านี้ข้างหน้าฯ สภาพที่ชื่อว่าสัมมาสมาธิ เพราะอรรถว่า เป็น
เหตุตั้งมั่นแห่งจิตโดยชอบและโดยสม่ำเสมอ ฯ เอกัคคตามี ๕ อย่าง ด้วย
อำนาจแห่งฌานมีปฐมฌานเป็นต้นฯ มิจฉาทิฏฐิเป็นต้น ชื่อว่ามัคคังคะ
เพราะเป็นองค์คือทางแห่งทุคติ ฯ
[อธิบายอินทรีย์และพละ]
ธรรมทั้งหลายที่ทำจักขุวิญญาณเป็นต้นให้เป็นไปตามตน ในกิจ
มีการเห็นเป็นต้น ทำเพศเป็นต้นให้เป็นไปตามตน ในเวลาเป็นไป