ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 152
[ขณะจิตมี ๓]
บทว่า กถ คือ (พึงทราบวิสัยปวัติ) โดยประการอย่างไร ฯ
เพื่อจะถามว่า การกำหนดอารมณ์ด้วยอำนาจอติมหันตารมณ์เป็นต้นแล้ว
ประกาศการกำหนดอารมณ์นั้นด้วยอำนาจแห่งขณะจิต ท่านอาจารย์จึง
เริ่มคำเป็นต้นว่า อปฺปาท ฐิติ ดังนี้ ฯ ความเกิดขึ้น ชื่อว่าอุปปาทะ
ได้แก่การกลับได้ตัวตน ฯ ความสลาย ชื่อว่าภังคะ ได้แก่ความพินาศ
แห่งรูปที่มีอยู่ฯ ความเป็นไปบ่ายหน้าสู่ความสลายในระหว่างความ
เกิดและความสลายทั้ง ๒ ชื่อว่าฐิติ ฯ แต่ท่านอาจารย์บางพวก
ปฏิเสธขณะที่จิตตั้งอยู่ (ฐิติขณะของจิต) ฯ จริงอยู่ การอธิบายของ
ท่านอาจารย์เหล่านั้น ดังต่อไปนี้ :- ในวิภังค์แห่งบทมีอาทิอย่างนี้ว่า
เกิดขึ้นแล้ว กำลังบังเกิดขึ้น ในจิตตยมก พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
ภังคขณะ และอุปปาทขณะเท่านั้น โดยนัยมีอาทิว่า ในภังคขณะ
จิตเกิดขึ้นแล้ว และมิใช่กำลังเกิดขึ้น ในอุปปาทขณะ จิตกำลังเกิดขึ้น
และมิใช่เกิดขึ้นแล้ว ดังนี้ ไม่ได้ตรัสฐิติขณะไว้ฯ ก็ถ้าแม้ฐิติขณะ
ของจิตมีอยู่ไซร้ ก็จะต้องตรัสคำว่า ในฐิติขณะ และในภังคขณะ ฯ
หากจะพึงมีมติของบางท่านว่า ฐิติขณะมีอยู่ โดยบาลีในสุตตันตะว่า
ความเกิดขึ้นปรากฏ และความเสื่อมปรากฏ ความเป็นอย่างอื่นแห่ง
ธรรมที่ตั้งอยู่แล้วก็ปรากฏ ดังนี้ 1 ในบาลีพระสูตรแม้นั้นพะผู้มี
พระภาคเจ้าทรางประสงค์เอาความตั้งอยู่ด้วยความต่อเนื่องกันอย่างเดียว
เพราะความเป็นโดยประการอื่นไม่เกิดขึ้นในธรรมอันหนึ่ง และเพราะ
ฯ