ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 212
[ว่าด้วยโลกวินาศด้วยไฟเป็นต้น]
คำว่า ทุติยฌานภูมิย์ ท่านกล่าวไว้ด้วยอำนาจฌานที่เป็น
ฌานจตุกกนัยฯ ประกอบความว่า "ต่อจากนั้นไป รูปเท่านั้นเป็นไป
ในปวัติกาลและในเวลาเคลื่อนไป ด้วยอำนาจแห่งภวังค์และจุติ เหมือน
อย่างนั้นแล้วก็ดับไป "ฯ บทว่า เตสุ คือ บรรดาพรหมผู้ถือปฏิสนธิ
ด้วยปฏิสนธิเหล่านั้น ฯ บทว่า กปปสฺส ได้แก่ อสงไขยกัลป์ ฯ
ๆ
จริงอยู่ การกำหนดอายุพรหม ๒ จำพวก มีพรหมปาริสัชชาเป็นต้น
ด้วยอำนาจมหากัลป์ ไม่มีเลย เพราะไม่เกิดในกัลป์ที่บริบูรณ์ โดย
เหตุที่พรหมเหล่านั้น จะไม่พินาศแม้ในกัลป์อันหนึ่งไม่มีฯ จริง
อย่างนั้น โลกนี้พินาศด้วยไฟ ๓ ครั้ง ในครั้งที่ 4 พินาศด้วยน้ำ แล้ว
พินาศด้วยไฟอีก ๒ ในครั้งที่ 4 พินาศด้วยน้ำ พินาศดังนี้ เมื่อ
ครบ 4 ครั้ง 4 หนแล้ว ในครั้งสุดท้าย จึงพินาศด้วยลมฯ ใน
พรหมโลกชั้นนั้น ๆ โลกพินาศด้วยไฟกระทั่งถึงชั้นปฐมฌาน ด้วยน้ำ
กระทั่งถึงชั้นทุติยฌาน และตติยฌาน ด้วยลมกระทั่งถึงชั้นจตุตถฌาน
แลฯ สมจริงดังคำที่ท่านอาจารย์กล่าวไว้ว่า
๘
ทุก ๆ
"คราวที่โลกพินาศด้วยไฟ ๓ คราวๆ
คราวที่ 6 จึงพินาศด้วยน้ำ เมื่อครบ
๖๔ คราวแล้ว จึงมีคราวลมคราวหนึ่ง ๆ
โลกพินาศด้วยไฟ ภายใต้แต่ชั้นอาภัสสรา
ด้วยน้ำภายใต้แต่ชั้นสุภกิณหา ด้วยลม
ภายใต้แต่ชั้นเวหัปผลา โลกย่อมพินาศ
อย่างนี้ "