ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 40
จริง แต่ในอาวัชชนะทั้ง ๒ นั้น ควงต้นย่อมเป็นไปคราวเดียวเท่านั้น
ในอารมณ์ อันจิตอะไร ๆ ไม่ได้จับแล้วในเบื้องต้น แม้ดวงหลังก็มี
ความเพ่งกิจอื่น ด้วยอำนาจแห่งอันเวียนมาแห่งจิตสันดานอันไม่เหมือน
กัน เหตุฉะนั้น จึงไม่อาจเสวยรสแห่งอารมณ์โดยประการทั้งปวง เพราะ
ฉะนั้น จึงสัมปยุตด้วยอุเบกขาเวทนาเท่านั้น ๆ ก็ในอธิการนี้มีคาถา
แสดงความย่อต่อไปนี้ :-
เพราะกิริยาที่รูปอาศัยภูตซึ่งมีวัตถุและ
อารมณ์เป็นสภาพ กระทบกัน ทุรพล
ฉะนั้น
จิต ๔ มีจักขุเป็นต้น จึงสัมปยุตด้วยอุเบกขา ฯ
ส่วนวิญญาณที่เกิดทางกายไม่มีอุเบกขา ฯ
เวทนา เพราะกิริยาที่ภูตรูป เป็นที่อาศัยแห่ง
กายประสาท และโผฏฐัพพะกระทบกันมี
กำลัง ฯ เพราะอนันตรปัจจัยไม่มีปัจจัยที่อาศัย
เสมอกัน ฉะนั้น สัมปฏิจฉันนะจึงทุรพล
ประกอบด้วยอุเบกขาในอารมณ์ ฯ
จิตที่ชื่อว่าเป็นอเหตุกะ เพราะเว้นจากสัมปยุตเหตุ เป็นวิบาก
แห่งกุศล เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่ากุศลวิบากอเหตุกจิต ฯ ก็กุศลวิบาก
อเหตุกจิตเหล่านี้ แม้สำเร็จด้วยอำนาจแห่งเหตุที่ยังตนให้เกิดขึ้น ก็
ย่อมได้บัญญัติว่า อเหตุกะ ด้วยอำนาจแห่งสัมปยุตนั่นแหละ
เพราะนอกจากนี้ จิตเหล่านี้ไม่มีความต่างกันจากมหาวิบากจิต ฯ ก็
เหตุไร ในอธิการนี้ ในนิคมน์แห่งอกุศลวิบาก ท่านจึงไม่ทำอเหตุก