ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 78
ที่ ๓ อย่างนั้นเหมือนกันฯ ธรรม ๑๘ กับโลภะและมานะ ถึงการ
สงเคราะห์เข้าในอสังขาริกจิตที่ 4 เหมือนกัน ฯ ก็ธรรม ๒๐ เหล่านั้น
นั่นแล เว้นปีติ กับธรรม ๔ คือ โทสะ ๑ อิสสา ๑ มัจฉริยะ ๑
กุกกุจจะ ๑ ท่านสงเคราะห์เข้าในอสังขาริกจิตที่ ๕ ซึ่งประกอบด้วย
ปฏิฆะ ฯ ส่วนอิสสา มัจฉริยะ และกุกกุจจะ บัณฑิตพึงแยกประกอบ
ในอกุศลจิตเหล่านี้เฉพาะดวงหนึ่ง ๆ ๆ แม้ในสสังขาริกจิต ๕ หมวด
บัณฑิตที่พึงประกอบให้แปลออกไปด้วยนะ และมิทธะ อย่างนั้น
เหมือนกันฯ
ก็ธรรม ๑๕ คือ อัญญสมานาเจตสิก ๑๑ เว้นฉันทะและปีติ
และอกุศลสาธารณเจตสิก ๔ ย่อมประกอบเข้าได้ในจิตที่สหรคตด้วย
อุทธัจจะ ฯ และธรรม ๑๕ ประกอบด้วยวิจิกิจฉา เว้นอธิโมกข์ ย่อม
ได้ในจิตที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาอย่างนั้นเหมือนกันฯ แม้ธรรมทั้งหลาย
ที่ท่านประกอบไว้ในอกุศลจิตตุปบาท ๑๒ เฉพาะดวงหนึ่ง ๆ แม้โดย
ประการทั้งปวง ก็เป็นอันท่านประมวลเข้าโดยอาการ ๓ อย่างด้วยกัน
ด้วยอำนาจแห่งการคำนวณ ฉะนี้และ ฯ
[สังคหคาถา]
ธรรมทั้งหลาย คือ ๑๕-๑๘-๒๐-๒๑-๒๐-
๒๒ และ ๑๕ ตั้งอยู่ในอกุศลจิตโดยอาการ
๓ อย่าง ฯ ธรรม ๑๔ เหล่านี้ คือ สาธารณ
เจตสิก ๔ และอัญญสมานาเจตสิกอีก ๑๐ ท่าน
เรียกว่า มีการประกอบในอกุศลจิตทั้งปวง ฯ