ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 304
และเพราะพวกพรหมไม้มีภาวรูปทั้ง ๒ นั้น ๆ และกลาปของอาหาร
ชรูปก็ไม่ได้ (ในรูปโลกนั้น) เพราะอาหารแม้ที่ซึมซาบอยู่ในร่างกาย
ไม่ยังรูปให้เกิดขึ้นได้ ด้วยอาหารที่กลืนกิน ฯ เพราะว่าฤดูและอาหาร
ที่ซึมไปตามสรีระ แม้มีอยู่ ได้อุตุและอาหารภายนอกเป็นที่อาศัยแล้ว
ย่อมยังอุตุรูปและอาหารรูปให้ตั้งขึ้น ฯ
บทว่า ชีวิตนวก ได้แก่ ชีวิตนวกะซึ่งมีกายทสกะเป็นที่ตั้งอยู่
เพราะไม่มีกายฯ บทว่า อติริจฺฉติ ความว่า เป็นรูปที่เหลือลงจากรูปที่
จะมีได้ในปฏิสนธิกาลและปวัติกาลแห่งพรหมที่เหลือ ๆ ก็รูปที่มีสมุฏ
ฐาน ๓ และที่มีสมุฏฐาน ๒ แห่งพวกพรหมแม้ทั้งหมด ย่อมดับพร้อม
กันทีเดียว เพราะพวกพรหมไม่มีการทิ้งสรีระไว้ในเวลาตาย ฯ ในรูปพรหม
ทั้งหลาย (รูปวจรภูมิ) รูป ๒๓ ย่อมดับไปพร้อมกัน เพราะไม่มีรูป
ทั้ง ๕ ด้วยสามารถแห่งฆานะ ชิวหา กายและภาวรูป ๒ ฯ แต่อาจารย์
บางพวกกล่าวว่า แม่รูปทั้ง ๓ มีลหุตาเป็นต้น ก็ไม่มีในรูปภพเหล่านั้น
เพราะไม่มีความกำเริบแห่งธาตุมีอันกระทำความเฉื่อยช้าเป็นต้นฯ คำ
ตามที่กล่าวนั้นเป็นเหตุที่ไม่สมควร ฯ เพราะว่า ความเป็นไปแห่งธรรม
ที่เป็นข้าศึกต่อลหุตารูปเป็นต้นนั้น ซึ่งมีการเพ่งเอาธาตุที่จะพึงให้สงบ
ย่อมไม่มี เพราะเมื่อเป็นเช่นนั้นความไม่มีลหุตาเป็นต้น จะไปพ้องกัน
ในพวกสเหตุกกิริยาจิต ฯ คำว่า สทฺโท วิกาโร เป็นอาทิ ท่าน
อาจารย์กล่าวไว้ด้วยอำนาจที่ทั่วไปแม้แก่สัตว์ทุกจำพวก ฯ
[อธิบายพระนิพพาน]
พระอนุรุทธาจารย์ ครั้นแสดงจิต เจตสิก และรูป โดยวิภาคด้วย