ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 229
(การทำความเห็นให้ตรง) ฯ
[ปุจฉาวิสัชชนาทิฏฐชุกรรมเป็นต้น]
ถ้ามีคำท้วงว่า "เมื่อเป็นเช่นนั้น จิตตุปบาทที่เป็นญาณวิปยุต
(ปราศจากญาณ) ก็ไม่ได้เป็นบุญกิริยาวัตถุ คือทิฏฐชุกรรมละสิ ?"
แก้ว่า "จะไม่ได้เป็นหามิได้ เพราะแม้เจตนาดวงก่อนและดวงหลัง
ก็สงเคราะห์เข้าในบุญกิริยาวัตถุนั้น ๆ " ฯ จริงอยู่ ในเวลาทำความเห็น
ให้ตรง จิตย่อมเป็นญาณสัมปยุต (ประกอบด้วยญาณ) ทีเดียว แม้ก็
จริง ถึงอย่างนั้น ในกาลก่อนและภายหลังต่อมา จิตแม้เป็นญาณวิปยุต
แม้นั้น เป็นทิฏฐชุกรรม จึงเกิดขึ้น เพราะเหตุนั้น พอกันที
ไม่ควรจะชักช้าเกินไป ฯ แต่ว่า บรรดาบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ มีทานเป็นต้น
เหล่านี้ บุญกิริยาวัตถุคือปัตติทานและอนุโมทนา ย่อมถึงความ
สงเคราะห์เข้าในทาน เพราะมีสภาพเหมือนกับทานนั้น ๆ จริงอยู่ แม้
ทานเป็นปฏิปักษ์ต่ออิสสาและมัจฉริยะ ถึงปัตติทานและอนุโมทนาแม้
เหล่านั้น ก็เป็นปฏิปักษ์ต่ออิสสาและมัจฉริยะเหมือนกัน เพราะฉะนั้น
ปัตติทานและอนุโมทนา (การให้ส่วนบุญและการอนุโมทานส่วนบุญ)
เหล่านั้น ท่านอาจารย์จึงสงเคราะห์เข้าในทานมัยบุญกิริยาวัตถุ (บุญ
กิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยทาน) เพราะมีลักษณะอย่างเดียวกัน โดยมีธรรม
เป็นปฏิปักษ์เหมือนกันฯ อปจายนะและเวยยาวัจจะ (ความประพฤติ
อ่อนน้อมและความช่วยขวนขวาย) ท่านก็สงเคราะห์เข้าในบุญสำเร็จ
ด้วยศีล เพราะเป็นจาริตศีลฯ ท่านอาจารย์ธรรมปาลเถระ กล่าวไว้