อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 134 อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 134
หน้าที่ 134 / 442

สรุปเนื้อหา

ในหน้านี้พูดถึงความเข้าใจในตัณหาที่เกิดจากความโลภและแสดงถึงความเห็นต่างของจิตที่มีอารมณ์แตกต่างกัน โดยมีการแบ่งแยกอารมณ์ตามประเภทของจิตและการใช้กรรมฐานในการบำเพ็ญธรรม เช่น การบูชาพระเจดีย์และการแจกบิณฑบาต นอกจากนี้ยังกล่าวถึงอำนาจของอกุศลจิตในการปิดกั้นโลกุตตรธรรมและการยอมรับธรรมประการต่าง ๆ การปรารภอารมณ์ที่ต่างกันนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจเพื่อที่จะบรรลุธรรมสูงสุด นำไปสู่การปฏิบัติวิปัสสนาเพื่อให้เกิดปัญญาและความเข้าใจในธรรมชาติของจิตและอารมณ์

หัวข้อประเด็น

-การวิเคราะห์ตัณหา
-อารมณ์และจิต
-โลกุตตรธรรม
-คุณสมบัติของอกุศลจิต
-การบำเพ็ญธรรมและกรรมฐาน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 134 ตัณหาคือความโลภจัดเห็นปานนี้เสียได้ ในคันธารมณ์แก่พระขีณาสพ ผู้ยินดี ในเวลาบูชาพระเจดีย์ด้วยของหอมเป็นต้น ในรสารมณ์แก่ พระขีณาสพผู้ยินดี ในเวลาแจกบิณฑบาตที่สมบูรณ์ด้วยรส แล้ว ฉันพร้อมกับเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ทั้งหลาย ในโผฏฐัพพารมณ์ แก่พระ ขีณาสพผู้ยินดี ในเวลาบำเพ็ญอภิสมาจาริกวัตร ในธรรมารมณ์แก่ พระขีณาสพผู้ปรารภกามาวจรธรรม ที่ถือเอาด้วยบุพเพนิวาสญาณ เป็นต้น แล้วยินดีอยู่ฯ ท่านอาจารย์ทำในใจว่า จิต ๒๐ ด้วยอำนาจ อกุศลจิต ๑๒ และชวนจิตเป็นญาณวิปยุต ๘ ไม่สามารถจะปรารภ โลกุตตรธรรมเป็นไป เพราะตนเป็นชวนจิตถึงซึ่งความมีอานุภาพเล็ก น้อย เพราะเหตุนั้น จึงเว้นโลกุตตรธรรม ๕ อย่างเสียแล้ว ปรารภ อารมณ์มีภูมิ ๒ และบัญญัติเป็นไป ดังนี้ จึงกล่าวว่า อกุสลานิ เจว เป็นต้น ฯ [จิตต่างภูมิมีอารมณ์ต่างกัน พึงทราบสันนิษฐานว่า ก็บรรดาจิต ๒๐ เหล่านี้ จิตตุปบาทที่ ประกอบพร้อมด้วยทิฏฐิ ๔ แต่อกุศลจิต มีกามวจรเป็นอารมณ์ ใน เวลาปรารภจับต้องยินดี และเพลิดเพลิน กามาวจรธรรม มีมหัคคตะ เป็นอารมณ์ ในเวลาที่ปรารภมหัคคตธรรม ๒๓ โดยอาการนั้นนั่นแล เป็นไป มีบัญญัติเป็นอารมณ์ ในเวลาที่ปรารภสมมติธรรมเป็นไป ฯ แม้จิตตุปบาทที่ไม่ได้ประกอบด้วยทิฏฐิ ก็มีกามาวจรธรรม มหัคคต ธรรม และบัญญัติธรรมเป็นอารมณ์ ในเวลาที่ปรารภธรรมเหล่านั้น นั่นแลเป็นไป ด้วยอำนาจความยินดีและความเพลิดเพลินอย่างเดียว
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More