ข้อความต้นฉบับในหน้า
ๆ
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 278
ที่ชื่อว่าอกาส เพราะอรรถว่า อันบุคคลจะไถไม่ได้ ฯ อกาสนั่นแล
ชื่อว่าอากาศ และชื่อว่าธาตุ เพราะอรรถว่า ไม่มีชีวิต เหตุนั้น จึง
ชื่อว่าอากาสธาตุฯ รูปที่เป็นเครื่องกำหนดรูป ซึ่งไปในกลาปหนึ่งๆ
มีจักขุทสกะเป็นต้น ด้วยอำนาจให้ถึงความเป็นรูปไม่ปะปนกับกลาปอื่น ๆ
หรือรูปที่กลาปเหล่านั้นกำหนดไว้ หรือเป็นเพียงการกำหนดกลาปเหล่า
นั้น ชื่อว่าปริเฉทรูป ๆ จริงอยู่ ปริเฉทรูปนั้น เป็นเหมือนกำหนด
รูปกลาปนั้น ๆ ไว้ ๆ ก็เมื่อภาวะแห่งภูตรูปในกลาปอื่น อันภูตรูปใน
กลาปอื่นถูกต้อง แม้จะมีอยู่ ที่สุดรอบแห่งรูป เป็นความว่างจากรูป
นั้น ๆ ชื่อว่าอากาส ฯ ก็แล ตนเองอันรูปที่มีกำหนดไว้เหล่านั้น
ไม่ถูกต้องเลย ฯ เมื่อมีภาวะแห่งรูปที่ไม่ถูกต้องกันอันไม่ควรกำหนด
อย่างอื่น ความเป็นปริเฉทรูปก็ไม่พึงมี เพราะรูปเหล่านั้นถึงความแพร่
หลายติดกันไปทั่วๆ
วๆ จริงอยู่ ภาวะแห่งรูปทั้งหลายที่ไม่ติดกัน ชื่อว่า
อสัมผัฏฐตา ฯ เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสไว้ว่า รูป
ที่มหาภูตรูปทั้ง ๔ ไม่ถูกร้อง (ชื่อว่าปริเฉทรูป)ฯ
[อธิบายวิญญัติรูป ๒ ]
ન
ธรรมชาติที่ชื่อว่ากายวิญญัติ เพราะอรรถว่า ยังคนอื่นให้รู้ความ
ประสงค์ด้วยกายที่เคลื่อนไหวอยู่ และตนเองก็
และตนเองก็รู้ด้วยกายที่เคลื่อนไหว
อยู่นั้น ๆ ที่ชื่อว่าวจีวิญญัติ เพราะอรรถว่า ยังคนอื่นให้รู้ความประสงค์
ด้วยวาจากล่าวคือเสียงที่เป็นไปกับด้วยวิญญาณ และตนเองก็รู้ด้วย